สสว. ประกาศรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติครั้งที่ 13 เพื่อสร้างแรงบันดาลใจผู้ประกอบการไทยสู้วิกฤตโควิด ผู้ประกอบการ SMEไทย คว้า 53 รางวัล สุดยอด SME แห่งชาติ 12 รางวัล พร้อมขยายสู่ตลาดโลก หนุนผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาด mai และ SET ในอนาคต
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว) ประกาศผลรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติครั้งที่ 13 ผู้ประกอบการ SME ไทยรับรางวัลสุดยอด SME 12 ราย รางวัล SMEดีเด่น จำนวน 26 รางวัล และรางวัลมาตรฐาน SME จำนวน 15 รางวัล SME New Normal 14 รางวัล สร้างแรงจูงใจในการปรับปรุงคุณภาพธุรกิจให้ได้มาตรฐานและยอมรับได้ในระดับสากล
โดยมีนายมงคล ลีลาธรรม ประธานกรรมการบริหารสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และนายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม นายสมิตร ส่งพิริยะกิจ คณบดีวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ร่วมแสดงความยินดีกับผู้ได้รับรางวัลในพิธีมอบรางวัลในรูปแบบออนไลน์
นายมงคล ลีลาธรรม ประธานกรรมการบริหารสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวในพิธีการมอบรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติครั้งที่ 13 ว่า วันนี้นับเป็นโอกาสที่ดีที่ได้มาพบกับผู้ประกอบการ SME ที่เป็นต้นแบบที่มีการบริหารจัดการที่ดี มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล พร้อมที่จะเป็นแบบอย่าง และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการSME อื่น ๆ ทั่วประเทศ
ซึ่งเวทีการประกวดรางวัลนี้เปิดกว้างให้ผู้ประกอบการทุกรายได้เรียนรู้ตนเอง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงการสร้างเครือข่ายทางการค้า ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อธุรกิจของผู้ประกอบการ SME ต่อไป ผู้ประกอบการ SME เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยมีสัดส่วนต่อ GDP เท่ากับร้อยละ 34.3 ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2563 มีมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1,421,127.9 ล้านบาท และส่งเสริมการจ้างงาน 12,714,976 คน ในปี 2564
รัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล โดยการอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ SME สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือของภาครัฐผ่านโครงการต่าง ๆ ที่พร้อมให้การสนับสนุนตั้งแต่ระดับฐานรากและในทุกช่วงวงจรธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มช่องทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม ในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น
นายวีระพงศ์ มาลัย ผอ.สสว. กล่าวว่า โครงการ SME National Awards ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 13 วัตถุประสงค์หลัก คือ การสรรหาผู้ประกอบการ SME ที่มีความสามารถในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานที่ดี มีความโปร่งใส และมีธรรมาภิบาล เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีและเป็นการสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายอื่น ๆ รวมถึงการต่อยอดและขยายโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการSME ที่ได้รับรางวัลสามารถสร้างรายได้และเพิ่มยอดขายของธุรกิจได้ โดยการประกวดได้ใช้เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Awards-TQA) ทั้ง 7 หมวด มาพิจารณา ได้แก่ 1. บทบาทของผู้บริหารในการนำองค์กร 2. การวางแผนการดำเนินธุรกิจ 3. การมุ่งเน้นลูกค้าและตลาด 4. การวัด วิเคราะห์ และจัดการความรู้ 5. การบริหารทรัพยากรบุคคล 6. การจัดการกระบวนการ และ 7. ผลลัพธ์ทางธุรกิจ มาใช้เพื่อมอบรางวัลแก่กลุ่มธุรกิจSME ที่มีประสิทธิภาพและความสามารถการบริหารจัดการอย่างมีมาตรฐาน
ในการจัดการประกวดรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ ครั้งที่ 13 นี้ มีผู้สมัครจากผู้สมัครทั้งสิ้น 1,031 ราย โดยมีผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจตั้งแต่ 3 ปี ขึ้นไป ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับรางวัล จำนวน 53 ราย ได้แก่ รางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ จำนวน 12 ราย รางวัล SME ดีเด่น จำนวน 26 ราย และรางวัลมาตรฐาน SME จำนวน 15 ราย
สำหรับในปีนี้เกิดสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดอย่างต่อเนื่องและส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจเป็นอย่างมาก จึงได้มอบรางวัล SME New Normal เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นรางวัลพิเศษสำหรับผู้ประกอบการที่มีการนำองค์ความรู้และทักษะต่างๆ ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการมาปรับใช้ในการพัฒนากลยุทธ์และรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้สามารถก้าวทันต่อสถานการณ์โควิด-19 จำนวน 14 กิจการ โดยผู้ประกอบการSME ที่ได้รับรางวัลในปีนี้ สามารถสร้างมูลค่ายอดขายรวมได้ถึง 4,360 ล้านบาท โดยมียอดขายที่เพิ่มขึ้น 621 ล้านบาท ยอดขายรวมเฉลี่ยต่อบริษัท 96 ล้านบาท และยอดขายที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 16.60 %
นอกจากนี้ มีจำนวนแรงงานทั้งหมด 3,423 คน จำนวนแรงงานเฉลี่ยต่อบริษัท 76 คน และมีจำนวนแรงงานที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด 356 คน จำนวนแรงงานที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อบริษัท 8 คน และขณะนี้ มีบริษัทที่เคยเข้าร่วมประกวดรางวัลสุดยอดเอสเอ็มอีแห่งชาติจำนวน 5 บริษัท ที่เข้าตลาด SET ได้แก่ 1) บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) 2) บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) 3) บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) 4) บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) และ 5) บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างเตรียมตัวเข้าตลาด mai 3 ราย ได้แก่ 1) บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด 2) บริษัท โทฟุซัง จำกัด และ3) บริษัท จีพีอะไหล่ จำกัด ซึ่งเป็นการแสดงถึงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อม ไปสู่ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสะท้อนบทบาทของSME ไทยได้อย่างชัดเจน